วิธีการนวด คลายเส้น ป้องกัน อาการปวดเข่า ข้อเข่าเสื่อม
แนะนำวิธีการนวดคลายเส้น ป้องกันการปวดเข่า การเจ็บป่วยจากโรคที่เกิดจากการติดขัดของเลือดและลม ยืดเส้นเพื่อให้เลือดลมไหลเวียนสะดวกขึ้น ช่วยให้หลีกไกลการเจ็บป่วยได้
อายุที่เพิ่มขึ้นก้าวสู่วัยสูงอายุ นอกจากโรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน โรคหัวใจและหลอดเลือดซึ่งมักตามมาเป็นปัญหาสุขภาพ
อาการปวดเข่า ข้อเสื่อม ยังเป็นอีกโรคหนึ่งที่บั่นทอนการดำเนินชีวิตและพบว่ามีแนวโน้มการเจ็บป่วยเพิ่มมากขึ้น!! การดูแลสุขภาพอย่างเหมาะสม ถูกต้องจึงเป็นสิ่งสำคัญและมีความจำเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวเวลานี้ คนโบราณนำภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย ทั้งเรื่องอาหารการกิน การนวดไทย ฯลฯ เข้ามาดูแลสุขภาพป้องการเจ็บป่วย
นิเวศน์ บวรกุลวัฒน์ แพทย์แผนไทยปฏิบัติการ กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข ให้ความรู้แนะนำวิธีการนวดคลายเส้น ป้องกันการปวดเข่า การเจ็บป่วยจากโรคที่เกิดจากการติดขัดของเลือดและลมว่า การนวดเป็นภูมิปัญญาของไทยมีมาแต่โบราณ โดยศาสตร์ดังกล่าวคนโบราณให้ความสำคัญมาก
ทั้งนี้การเจ็บป่วยส่วนใหญ่แทบทุกโรคเกิดจากการติดขัดของเลือดและลม ไม่ว่าจะเป็นอาการปวดแขน ปวดขา ปวดหลัง ปวดเมื่อยบั้นเอว ฯลฯ ซึ่งล้วนเกิดจากการติดขัด เลือดไปเลี้ยงอวัยวะบริเวณนั้นไม่เพียงพอหรือมีการคั่งของเลือดของเสียอยู่ในอวัยวะส่วนนั้นอยู่มาก การบีบนวด ยืดเส้นเพื่อให้เลือดลมไหลเวียนสะดวกขึ้นจึงมีส่วนสำคัญช่วยให้หลีกไกลการเจ็บป่วยได้
“การติดขัด เลือดไหลเวียนไม่สะดวก เกิดขึ้นได้กับทุกเพศ ทุกวัยและทุกส่วนของอวัยวะในร่างกาย ทั้งยังเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ดังนั้นหากอาการติดขัดเหล่านี้ลดคลายลง สุขภาพก็จะเป็นปรกติไม่เจ็บป่วยเป็นกลไกธรรมชาติและเมื่อร่างกายเราทำงานตลอดเวลาจึงต้องหาวิธีดูแลร่างกายที่เหมาะสม นวดไทย จึงเป็นวิธีการหนึ่งที่สามารถนำมาดูแลตนเองได้ดี”
การดูแลสุขภาพด้วยการนวด กรณีที่ปวดเมื่อยเล็กน้อยสามารถนวดได้ด้วยตนเอง บีบนวดเบา ๆ เพื่อให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย ให้เลือดลมไหลเวียนดีขึ้น อาการปวดก็จะบรรเทาลง การกำเริบของโรคจะลดน้อยลง แต่หากปวดมากขึ้น มีอาการบวมหรือเห็นว่าอาการเหล่านั้นไม่หายไปควรต้องพบแพทย์ ก่อนลุกลามทำให้โรครุนแรงขึ้น โดยเฉพาะโรคที่เกี่ยวเนื่องกับข้อส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของร่างกาย
ส่วน ท่าบริหารเข่าอย่างง่าย ๆ ขณะที่นั่งบนเก้าอี้สูงให้แกว่งขาไปมาหรืองอเข่ายืดเข้า ยืดออกทำต่อเนื่อง3-5 ครั้ง หรือกรณีที่ตึงขามาก ให้บีบนวดจากต้นขาลงไปถึงเข่า ถึงสันหน้าแข้ง หรือบีบนวดใต้ท้องขาตั้งแต่เหนือเข่าลงไปถึงน่อง นวดขึ้นนวดลง หรือแม้แต่การนั่งไขว่ห้าง สามารถช่วยนวดคลายความปวดเมื่อยได้
“การนวดไม่จำเป็นต้องกดแรง เมื่อเส้นคลายจะทำให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น การทุบเบา ๆ เป็นการนวดอีกวิธีที่ช่วยให้เลือดไหลเวียนได้สะดวก ทุบจากต้นขาถึงเข่าและรอบเข่า ฯลฯ ซึ่งวิธีเหล่านี้สามารถทำได้ด้วยตนเอง โอกาสเจ็บป่วยก็ลดน้อยลงเข่าแข็งแรงขึ้น
การนวดด้วยตนเองยังทำให้ทราบว่าเจ็บ ปวดตรงไหน แต่อย่างไรแล้วต้องพึงระวัง การนวดคลึงที่รุนแรงอาจทำให้กล้ามเนื้ออักเสบ บาดเจ็บได้และถ้านวดแล้วรู้สึกเจ็บขึ้นควรหยุดนวดบริเวณนั้น”
การนวดผู้ถูกนวดจะนอนหงาย ผู้นวดนั่งคุกเข่าหันหน้าเข้าหาข้างที่จะนวด เริ่มนวดตามแนวเส้นทั้งขาด้านนอก ด้านในและด้านหลัง นวดพื้นฐานโดยนวดเส้นหลัก ๆ เส้นขาด้านนอกมี 3 เส้น ด้านใน2 เส้นและขาด้านหลังอีก 2 เส้น นวดตามแนวเส้นเบา ๆ
การคลึงใช้นิ้วโป้งกดลงแล้ววาดมือขึ้นซึ่งทำให้เส้นค่อย ๆ คลายลง นวดเช่นนี้ต่อเนื่องประมาณ 3 รอบ อีกทั้งมีจุดกดที่เข่าอีกประมาณ 12 จุดข้างหน้าเหนือเข่า ด้านใน ด้านนอก ข้างเข่าและจุดใต้เข่า ข้อพับเข่า ข้อพับเข่าเหนือขึ้นมาหนึ่งฝ่ามือ เหนือข้อพับเข่าสองนิ้วและใต้ข้อพับเข่า เป็นต้น
“การนวดแนวเส้นและจุดที่เกี่ยว ข้องกับข้อเข่าดังกล่าวเพื่อกระจายเลือดที่ตกตะกอนทำให้เลือดใหม่ไหลผ่านเข้าบริเวณข้อเข่าได้สะดวก เลือดจะหมุนเวียนของเสียที่คั่งค้างออกไปเป็นการกระตุ้นทำให้ระบบเลือดไหลเวียนในเข่าได้ดีขึ้น เมื่อเลือดไหลเวียนดีก็ไม่เกิดการติดขัดปวดเมื่อย”
อย่างไรก็ตามหากนวดแล้วอาการไม่ดีขึ้น
อย่านิ่งนอนใจควรพบแพทย์ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญ
อีกทั้งการนวดด้วยตนเองมีข้อพึงระวังไม่นวดลงน้ำหนักมากเกินไปหรือนวดบ่อยครั้ง
หากมีการอักเสบปวดระบมควรรักษาให้หายก่อน
อีกทั้งถ้ามีโรคประจำตัวก็ต้องเพิ่มความระมัดระวังการนวดให้มากขึ้น.
พงษ์พรรณ บุญเลิศ ที่มา : เดลินิวส์