5 วิธีง่ายๆ การดูแลสุขภาพเท้า ในช่วงฤดูฝน

5 วิธีง่ายๆ การดูแลสุขภาพเท้า ในช่วงฤดูฝน

5 วิธีง่ายๆ การดูแลสุขภาพเท้า ในช่วงฤดูฝน ป้องกันเท้าเหม็น ติดเชื้อราและแบคทีเรีย และเชื้อโรคต่างๆ ที่มากับน้ำฝนและน้ำท่วม

เริ่มเข้าสู่ฤดูฝนอีกแล้ว เมื่อฝนตกก็มักจะมาคู่กับน้ำท่วม เป็นปัญหาที่มาพร้อมๆกันที่ยังแก้ไขไม่ได้ซักที ดังนั้น การดูแลสุขภาพเท้า ในหน้าฝนอย่างถูกต้อง จึงสำคัญมาก เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอาการเท้าเหม็นที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งมักจะเกิดจากเชื้อราชนิดหนึ่งขึ้นที่เท้า บริเวณซอกนิ้วเท้า และเล็บเท้า

วิธีดูแล'สุขภาพเท้า'หน้าฝน

ช่วงฝนตกหนักๆ คนทั่วไปที่ต้องเดินทางก็มีโอกาสเดินย่ำน้ำที่แสนสกปรก จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึงในช่วงหน้าฝน เพราะปัจจุบัน ต้องใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางมลภาวะที่อันตรายอยู่ตลอด

ฤดูฝนมาถึงแล้ว!!! หลายคนคงจะเริ่มคิดถึง “วิธีการรับมือ” กับช่วงหน้าฝน โดยเฉพาะวิธีการดูแลสุขภาพเท้า ไม่ให้เกิดอาการเท้าเหม็นที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งมักจะเกิดจากเชื้อราชนิดหนึ่งขึ้นที่เท้า บริเวณซอกนิ้วเท้า และเล็บเท้า

เพราะช่วงฝนตกหนักๆคนทั่วไปที่ต้องเดินทางก็มีโอกาสเดินย่ำน้ำ ที่แสนสกปรก จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึงในช่วงหน้าฝน เพราะคนจำนวนมากในปัจจุบัน ใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางมลภาวะที่อันตรายอยู่ตลอดเวลา วันนี้ "เดลินิวส์ออนไลน์" เรามี 5 วิธีง่ายๆ ในการดูแลสุขภาพเท้าด้วยตัวคุณเองมาฝากกัน

  1. ล้างเท้าให้สะอาดด้วยน้ำสบู่อ่อนๆ ทุกวัน ซึ่งจะทำให้ผิวหนังในส่วนนั้นนุ่มขึ้น ห้ามขัด-ถู-แช่น้ำ มากเกินไป เพราะจะทำให้ผิวหนังแห้ง หลังจากล้างเท้าแล้วควรเช็ดเท้าให้แห้งสนิททุกครั้ง โดยเฉพาะบริเวณซอกนิ้วเท้า (สำหรับผู้มีกลิ่นเท้าหลังจากล้างเท้าควรเช็ดให้แห้งสนิท โรยแป้งทาตัวให้ทั่วเท้าและซอกเท้า และไม่ควรใส่รองเท้าคับเกินไป ควรเลือกใส่ให้สบายและระบายอากาศได้) 
  2. ควรตัดเล็บเท้าอย่างถูกวิธี วิธีการตัดตรงตามแนวขอบเล็บ ไม่ควรตัดเล็บเซาะเข้าไปด้านข้างหรือจมูกเล็บ และไม่ควรตัดเล็บให้สั้นจนเกินไป 
  3. ถ้าหากเป็นคนผิวแห้ง ไม่ควรทาครีมแบบมีน้ำหอม ทาบางๆเพื่อให้เกิดความชุ่มชื้นกับผิว ทั้งหลังเท้าและฝ่าเท้า ห้ามทาครีมบริเวณซอกนิ้วเท้า เพราะอาจเกิดการหมักหมมของเชื้อราได้ 
  4. ไม่ควรเดินเท้าเปล่าย่ำน้ำท่วมขัง เพราะอาจเดินเหยียบสิ่งมีคม จนเกิดบาดแผลที่ฝ่าเท้าได้ และสิ่งสกปรกหรือเชื้อโรคก็จะเข้าสู่ร่างกายได้ง่ายขึ้น หลังจากพ้นเขตน้ำท่วม ควรล้างเท้าให้สะอาดและเช็ดเท้าให้แห้งทันที (เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นแหล่งของโรคที่เกิดในช่วงฤดูฝน ไม่ว่าจะเป็น ไข้หวัดชนิดต่าง ๆ โรคฉี่หนู โรคไข้เลือดออก โรคตาแดง แต่โรคที่คนส่วนใหญ่มักเป็นกันบ่อยครั้งและพบมากในช่วงฤดูฝน คือ โรคน้ำกัดเท้า หรือ ฮ่องกงฟุต) 
  5. ควรนำรองเท้าที่เปียกน้ำไปตากแดด เช่น รองเท้าผ้าใบ รองเท้าหนัง ก่อนตาก ควรล้างทำความสะอาดให้เรียบร้อย จากนั้นนำไปตากแดดให้แห้งสนิท เพื่อป้องกันการสะสมของเชื้อแบคทีเรีย

พญ.นัทยา วรวุทธินนท์ แพทย์ประจำแผนกตจศัลยศาสตร์และเลเซอร์ผิวหนัง สถาบันโรคผิวหนัง เปิดเผยว่า ควรเลือกรองเท้าให้เหมาะสมกับช่วงหน้าฝน ไม่แช่น้ำนานจนเกินไป เพราะอาจทำให้เกิดการระคายเคือง หลีกเลี่ยงได้ควรหลีกเลี่ยง ถ้าเกิดเลี่ยงไม่ได้ ควรล้างเท้าให้สะอาดและเช็ดให้แห้งสนิท 

เพื่อไม่ให้เกิดความชื้น ซึ่งอาจทำให้เกิดเชื้อรา ถ้าหากเกิดอาการ ผด ผื่น คัน ให้รีบปรึกษาแพทย์ กรณีผู้ที่มีแผลที่เท้าควรหลีกเลี่ยงการโดนน้ำให้ได้มากที่สุด เพราะอาจจะทำให้แผลหายช้า และอาจมีการติดเชื้อโรคต่างๆที่ตามมากับหน้าฝน หากเลี่ยงไมได้ 

ควรรีบทำความสะอาดโดยเร็วที่สุด ใช้ยาฆ่าเชื้อโรค, เบตาดีน หรือน้ำเกลือทำความสะอาดแผล ถ้าบาดแผลขนาดใหญ่ ควรรีบพบแพทย์ และควรฉีดยาหรือ วัคซีนป้องกันบาดทะยัก

รู้วิธีการดูแลรักษาสุขภาพเท้าแบบนี้แล้ว ก็จะได้หาทางป้องกันได้อย่างถูกวิธี ควรหมั่นตรวจเช็คเท้าอย่างสม่ำเสมอ เพราะถ้ามีอาการผิดปกติ มีแผล คัน หรือมีกลิ่นเท้ารุนแรง ควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที และระมัดระวังอย่าให้รองเท้าอับชื้นเป็นเวลานาน ตากแดด ตากลม ทำวิธีง่ายๆเพียงแค่นี้ แล้วคุณจะมีสุขภาพเท้าที่ดี ไร้กลิ่นและหมดกังวลเรื่องเชื้อราไปได้เลย
จีรานุช ฤทธิสนธิ์ ที่มา : เดลินิวส์ออนไลน์

รายละเอียดเพิ่มเติม