โรคข้อเข่าเสื่อม ข้อสะโพกเสื่อม อาการ วิธีการรักษา สาเหตุ เกิดจาก ...
โรคข้อเข่าเสื่อม ข้อสะโพกเสื่อม สาเหตุ อาการ และ วิธีการรักษา ในปัจจุบันมีผู้ป่วยโรคข้อสะโพกเสื่อม และข้อเข่าเสื่อม เพิ่มมากขึ้น
การมีน้ำหนักตัวมากเกินไป โดยไม่ใช้แผ่นรองเท้าเพื่อสุขภาพ การได้รับยาสเตียรอยด์ การดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ผสมเป็นจำนวนมาก ก็เป็นสาเหตุของการเกิดอาการข้อสะโพกเสื่อม หรือข้อเข่าเสื่อม แต่สาเหตุหลักส่วนใหญ่นั้นมีสาเหตุมาจาก อายุ พันธุกรรม ความเสื่อมของข้อสะโพกหรือข้อเข่าตามวัย การรักษาที่ได้ผลดีก็คือการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าและข้อสะโพกใหม่
"ข้อเสื่อม” เป็นได้ทุกวัย ต้องใส่ใจดูแลแบบองค์รวม
อาการเจ็บปวดบริเวณสะโพกหรือเข่า ขาโก่ง ขากาง เข่าชนกัน หรือเข่าห่างกันมากเกินไป มีเสียงดังเวลาเคลื่อนไหวข้อสะโพก ข้อเข่างอเหยียดไม่สุด ลุกนั่งยาก ขัดในข้อ ขึ้นลงบันไดไม่สะดวก อาการเหล่านี้คือสัญญาณของโรคข้อสะโพกและข้อเข่าที่สร้างความทุกข์ทรมาน และเป็นอุปสรรคในการใช้ชีวิตประจำวัน ซึ่งโรคดังกล่าวนั้น ไม่เพียงเกิดได้แค่ผู้สูงอายุ
แต่ปัจจุบันหนุ่มสาววัยทำงานก็มีโอกาสเสี่ยงเช่นกัน โรงพยาบาลกรุงเทพ จึงได้จัด “งานเปิดบ้าน ศูนย์ข้อสะโพกและข้อเข่ากรุงเทพ หรือ Bangkok Hip & Knee Center” เพื่อโชว์ความพร้อมทีมแพทย์สหสาขา และเทคโนโลยีทันสมัย เพิ่มคุณภาพชีวิตด้วยรูปแบบการรักษาเฉพาะบุคคล และการดูแลแบบองค์รวม
น.พ.วัลลภ สำราญเวทย์ ผู้อำนวยการศูนย์ข้อสะโพกและข้อเข่ากรุงเทพ โรงพยาบาลกรุงเทพ กล่าวว่า ในปัจจุบันมีจำนวนผู้ป่วยโรคข้อสะโพกและข้อเข่ามากขึ้น โดยโรคที่คนไทยเป็นกันมากคือ โรคข้อสะโพกตายจากการขาดเลือด และโรคข้อเข่าเสื่อม
โดยอุบัติการณ์ของโรคข้อเสื่อมข้ออักเสบเท่ากับ 3.5% ของจำนวนประชาการทั้งหมด
- ที่อายุ 25 ปี พบว่ามีอัตราข้อเสื่อมเท่ากับ 4.9%
- ที่อายุ 45 ปี พบว่ามีอัตราข้อเสื่อมเท่ากับ 19.2%
- เมื่ออายุถึง 60 ปี มีโอกาสเกิดข้อเสื่อมสูงถึง 37.4%
ในประเทศสหรัฐอเมริกาผู้ป่วยข้อเข่าเสื่อมข้อสะโพกเสื่อมมีอุบัติการณ์ของการผ่าตัดใส่ข้อเข่าเทียมสูงถึง 2% และ 1% ในโรคข้อสะโพกเสื่อม ส่วนในประเทศอื่นๆ นั้นอัตราดังกล่าวลดหลั่นกันไปตามการเข้าถึงบริการของประชาชน สำหรับประเทศไทยนั้นมีอุบัติการณ์ของการผ่าตัดข้อสะโพกเทียมข้อเข่าเทียมปีละ 25,000 ราย
ซึ่งเดิมโรงพยาบาลกรุงเทพมีการรักษารวมอยู่ในศูนย์กระดูกและข้อกรุงเทพ แต่เนื่องจากจำนวนผู้ป่วยที่เข้ามารักษามีปริมาณเพิ่มขึ้น โรงพยาบาลจึงได้เปิดศูนย์ที่ดูแลด้านโรคข้อสะโพกและข้อเข่าขึ้น เพื่อรองรับและดูแลรักษาผู้ป่วย น.พ.วัลลภ ชี้ว่า จุดเด่นของ ศูนย์ Bangkok Hip & Knee Center ประกอบไปด้วย 4 ส่วนหลักคือ
- Total Joint Care เป็นการดูแลรักษาแบบครบข้อในที่เดียว โดยผสมผสานวิธีการรักษาต่างๆ อย่างมีมาตรฐาน เพื่อให้ผู้ป่วยกลับมาใช้ชีวิตปกติอย่างมีคุณภาพได้
- Experience ทีมแพทย์ประจำและแพทย์ที่ปรึกษามีประสบการณ์ ความรู้ และสามารถแก้ไขปัญหาหรือภาวะแทรกซ้อนที่เกิดขึ้นหลังจากการรักษาผ่าตัดข้อสะโพกหรือข้อเข่ามาแล้ว
- Patient and Family Education การให้ความรู้เกี่ยวกับโรคและการดูแลรักษาแก่ผู้ป่วยและญาติ เพื่อร่วมกันเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมสำหรับผู้ป่ว
- Multidisciplinary Care ทีมแพทย์สหสาขาวิชา พยาบาล เจ้าหน้าที่กายภาพบำบัด ร่วมกันดูแลรักษาให้ผู้ป่วยให้กลับไปมีคุณภาพชีวิตที่ดี
“เรามีความโดดเด่นในด้านเทคโนโลยีการผ่าตัด ห้องผ่าตัดที่ได้มาตรฐาน ชุดผ่าตัดพิเศษเพื่อป้องกันการติดเชื้อ (Surgical Space Suit) ซึ่งจะช่วยป้องกันการติดเชื้อที่อาจมาจากลมหายใจของศัลยแพทย์ไปติดเชื้อแผลผ่าตัดผู้ป่วย และระบบกรองอากาศ ระบายอากาศโดยป้องกันฝุ่นละอองฟุ้งกระจายในห้องผ่าตัด (Laminar Air Flow) ป้องกันการติดเชื้อที่แผลผ่าตัดได้” น.พ.วัลลภ กล่าว
นอกจากนี้ ศูนย์ข้อสะโพกและข้อเข่ากรุงเทพยังให้ความสำคัญกับการให้บริการผู้ป่วยเปลี่ยนข้อเข่าและข้อสะโพก ไม่ว่าจะเป็นการบริหารจัดการดูแลความเจ็บปวดตั้งแต่ก่อนการผ่าตัด ไปจนภายหลังการผ่าตัด (Multimodal Preemptive Pain Management Program),
เทคโนโลยีด้านคอมพิวเตอร์สร้างภาพจำลองสำหรับผู้ป่วยรายบุคคล (Digital template Surgical Planning) ตลอดจนใช้เทคโนโลยี Pinless Navigating TKR ซึ่งเป็นการผ่าตัดเปลี่ยนข้อโดยการใช้คอมพิวเตอร์นำวิถีแบบพกพาเพื่อให้ข้อเทียมที่ใส่เข้าไปใหม่อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม ลดความผิดพลาดในการวางข้อเทียม ทำให้ผลการรักษามีความแม่นยำ
วัสดุข้อเข่าเทียมที่เราใช้ยังเลือกวัสดุที่ทันสมัยแบบใหม่ล่าสุด ประกอบไปด้วยโลหะ พลาสติกชนิดพิเศษที่มีการสึกหรอน้อยมาก ข้อสะโพกเทียมจะประกอบด้วยวัสดุที่ทำจาก Ceramic เพื่อให้อายุการใช้งานที่ยืนยาวของข้อเข่าและข้อสะโพกเทียมยืนนานมากที่สุด
ด้าน ผศ.นพ.สมบัติ โรจน์วิโรจน์ ศัลยแพทย์กระดูกและข้อ กล่าวเพิ่มเติมว่า การเกิดโรคข้อสะโพกและข้อเข่า ส่วนใหญ่นั้นมีสาเหตุมาจาก อายุ พันธุกรรม ความเสื่อมของข้อสะโพกหรือข้อเข่าตามวัย การมีน้ำหนักตัวมากเกินไป การได้รับยาสเตียรอยด์
การดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ผสมเป็นจำนวนมาก เกิดการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรงของข้อสะโพกหรือข้อเข่า หรือจากการใช้งานหนัก มักพบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย สาเหตุหนึ่งเกิดจากระดับฮอร์โมนลดลงหลังหมดประจำเดือน ทำให้ความเสื่อมในร่างกาย เช่น ภาวะกระดูกพรุน ทำให้น้ำหนักลงหัวเข่าไม่เท่ากันรวมถึงภาวะน้ำหนักเกิน ขณะที่ผู้ชายมักเกิดจากการเล่นกีฬาและอุบัติเหตุ
ศูนย์ข้อสะโพกและข้อเข่ากรุงเทพ เปิดให้บริการตรวจรักษาผู้ที่มีอาการหรือความผิดปกติของข้อสะโพก ข้อเข่าหรือขาส่วนล่าง อาทิ โรคข้อเข่าเสื่อม โรคข้อสะบ้าเสื่อม โรคข้อสะโพกเสื่อม โรคข้อเสื่อม หรือข้อถูกทำลายจากโรคต่างๆ เช่น
- โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์
- โรคข้ออักเสบติดแข็ง
- ข้อเสื่อมที่เกิดหลังจากอุบัติเหตุ
- เส้นเอ็นฉีกขาดหรือกระดูกหัก ข้อเคลื่อน
- ข้อที่ถูกทำลายจากการติดเชื้อ
- โรคหัวกระดูกสะโพกตายจากขาดเลือดไปเลี้ยง
- โรคกระดูกข้อเข่าหรือสะบ้าตายจากการขาดเลือดไปเลี้ยง
รวมถึงความผิดปกติของรูปร่างข้อเข่า เช่น ขาโก่ง และขากาง โรคข้อสะบ้าเคลื่อนหรือหลุด โรคข้อสะโพกเคลื่อนแต่กำเนิด โรคข้อสะโพกหนีบหรือปุ่มกระดูกสะโพกกระแทก ภาวะแทรกซ้อนจากการผ่าตัดครั้งแรก ได้แก่ การใส่ข้อเทียมมาแล้วหลุดหลวม กระดูกที่เสียหายถูกทำลายจากข้อที่หลุดหลวม ข้อเข่าไม่สามารถงอได้หลังผ่าตัดใส่ข้อเข่าเทียม กระดูกหักหลังผ่าตัดใส่ข้อ ข้อติดเชื้อหลังจากผ่าตัดใส่ข้อเทียม เป็นต้น
สนใจสามารถสอบถามและปรึกษาได้ที่ศูนย์ข้อสะโพกและข้อเข่ากรุงเทพ ตั้งอยู่บริเวณชั้น 1 (โซนโถงเปียโน) อาคารโรงพยาบาลกรุงเทพ เปิดให้บริการ ทุกวัน เวลา 08.00-17.00 น. เบอร์โทรศัพท์ 0-2310-3731, 0-2310-3732 หรือ Contact Center โทร.1719
ที่มา:บ้านเมือง